Service Innovation

อย่าลืมว่าพวกเราขายบริการให้ลูกค้า ลูกค้าต้องการซอฟท์แวร์ดีมีคุณภาพและบริการที่ดี ลูกค้าส่วนใหญ่เคยใช้ซอฟท์แวร์จากที่อื่นมาก่อน สิ่งที่ลูกค้าอยากได้รับ คือประสบการณ์ที่ดีในการใช้ซอฟท์แวร์โปรซอฟท์

เรามีนโยบายการทำงานด้านบริการด้วยความรวดเร็ว เช่น พนักงานเราต้องรับโทรศัพท์ทันทีเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นไม่เกิน 3 ครั้ง

พนักงานบริการต้องมีทักษะบริการเชิงรับที่ดีต่อลูกค้า และต้องทำการต่อยอดเป็นการบริการเชิงรุก บริการต้องถึงลูกถึงคน

พนักงาน Consultant, Implement, Call Center ต้องมีความรู้ความสามารถในการให้บริการแก่ลูกค้า เมื่อลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามพนักงานทุกคนจะต้องตอบคำถามให้ตรงประเด็น

เราต้องบริการลูกค้าแบบ “ส่องกระจก” ดูตัวเราเอง พนักงาน Call Center ต้องมีกระจกวางไว้ข้างหน้าตัวเองเพื่อจะได้ดูสีหน้าขณะที่พูดคุยกับลูกค้า เราต้องบริการด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส

คนที่มีพระคุณที่พวกเราทุกคนควรตอบแทนก็คือลูกค้า คนโปรซอฟท์ห้ามนินทาลูกค้าหรือต่อว่าลูกค้าไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม เราจะต้องพูดถึงลูกค้าในทางที่ดีๆเสมอ ขอให้นึกถึงใจเขาใจเรา เอาใจเขามาใส่ใจเราแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

เราต้องเป็นคนที่มีน้ำใจที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน เราต้องช่วยเหลือทีมงานอย่างเต็มที่สุดกำลังความรู้ความสามารถที่เรามีการทำงานต้องมีหนักบ้าง เบาบ้าง พวกเราทุกคนต้องทำงานด้วยความทุ่มเท

คนที่มีพระคุณที่พวกเราทุกคนควรตอบแทนก็คือลูกค้า คนโปรซอฟท์ห้ามนินทาลูกค้าหรือต่อว่าลูกค้าไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม เราจะต้องพูดถึงลูกค้าในทางที่ดีๆเสมอ ขอให้นึกถึงใจเขาใจเรา เอาใจเขามาใส่ใจเราแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

การให้บริการทางด้านซอฟท์แวร์นั้นต้องอาศัยหลายหน่วยงานร่วมกันเช่น ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายขาย ฝ่าย Implement ฝ่าย Support เราไม่สามารถผลักภาระหน้าที่การให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าไปที่คนใดคนหนึ่ง

เมื่อเราขายซอฟท์แวร์ให้ลูกค้าไปแล้ว หน้าที่ของเราไม่ได้สิ้นสุดตรงที่เราติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำงาน หลังจากนั้นเราต้องส่งมอบการบริการที่เกินร้อยเปอร์เซนต์ให้ลูกค้า